วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ขัง้ตอนการทฎโครงงาน

การทำโครงงานต้องทำโครงงาน




ขั้นตอนการจัดทำโครงงาน : จากประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงาน ซึ่งได้นำมาประยุกต์ให้เหมาะสม

กับเนื้อหาวิชา วุฒิภาวะของนักเรียน และสภาพแวดล้อมที่โรงเรียน จึงสามารถกำหนดขั้นตอนการจัดทำโครงงานได

้ 6 ขั้นตอน ดังนี้

1. เลือกเรื่องที่น่าสนใจ

2. เตรียมไปหาแหล่งความรู้

3. เข้าสู่การวางแผนก่อน

4. ทำตามขั้นตอนอย่างสนุกสนาน

5. เขียนรายงานอย่างมั่นใจ

6. นำเสนองานได้เหมาะสม

ขั้นตอนที่ 1 เลือกเรื่องที่น่าสนใจ : ขั้นตอนแรกนี้ผู้เรียนจะต้องเลือกเรื่องที่เขาสนใจ โดยครูจะต้องเป็นผู้กระตุ้นหรือ

จัดกิจกรรมเร้าให้ผู้เรียนคิดเรื่องที่จะทำด้วยความพอใจ หัวข้อของโครงงานอาจได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความ

อยากรู้ อยากเห็นในเรื่องต่าง ๆ ของผู้เรียน ซึ่งเป็นผลได้มาจากการได้อ่านหนังสือ การฟังการบรรยาย การทัศนศึกษา

การได้พบเห็นสิ่งต่าง ๆในชีวิตประจำวัน

หัวข้อโครงงาน ควรเป็นเรื่องที่เฉพาะเจาะจงและชัดเจนว่าทำอะไร ควรเน้นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัว และเกิดประโยชน์

ขั้นตอนที่ 2 เตรียมไปหาแหล่งเรียนรู้ : ในขั้นนี้ผู้สอนจะต้องจัดเตรียมหรือชี้แนะแหล่งความรู้ต่าง ๆ ที่ผู้เรียนจะต้องใช้

ค้นคว้าหาคำตอบจากเรื่องที่เขาสนใจและสงสัย อาจเป็นประเภทเอกสาร ผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญ สื่อประเภทโสตทัศน์ วัสดุ

อุปกรณ์ ต่าง ๆ ที่หลากหลาย ผู้เรียนจะต้องได้รับรู้ว่ามีแหล่งความรู้ใดบ้าง ได้มองเห็นช่องทางที่จะใช้แหล่งความรู้

นั้น ๆ อย่างไรบ้าง และสามารถกำหนดแนวทางกว้าง ๆ ได้ว่าจะทำอะไร ทำอย่างไร ใช้ทรัพยากรอะไร เพื่ออะไร ฯลฯ

ขั้นตอนที่ 3 เข้าสู่การวางแผนก่อน : เมื่อผู้เรียนได้กำหนดแนวทางกว้าง ๆแล้ว จะต้องนำแนวทางนั้นมาวางแผนในการ

ทำงานว่าจะทำอะไรก่อนหล้ง โดยการสร้างแผนที่ความคิด แล้วนำมาจัดทำเค้าโครงของโครงงาน กำหนดเป็นหัวข้อ

ต่าง ๆ ได้แก่ ชื่อโครงงาน ชื่อผู้จัดทำโครงงาน ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน ระยะเวลาดำเนินงาน เหตุผลที่จัดทำโครงาน

วัตถุประสงค์ของการจัดทำ ขั้นตอนการดำเนินงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ และแหล่งความรู้ที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า

ขั้นตอนที่ 4 ทำตามขั้นตอนอย่างสนุกสนาน : ขั้นตอนนี้ผู้เรียนจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่วางไว้ โดยอยู่ในความ

ดูแลและแนะนำของครูผู้สอน โดยผู้เรียนจะต้องปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบ มีการจดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ไว้เป็นระยะ

ว่าทำอะไร ทำอย่างไร ได้ผลอย่างไร เมื่อมีปัญหาหรืออุปสรรคได้แก้ไขอย่างไร ผู้เรียนควรฝึกทักษะจากกิจกรรม และแหล่งความรู้ที่หลากหลาย ตามความสนใจ เกิดการเรียนรู้ตามลำดับขั้นโดยการปฏิบัติจริงด้วยตนเอง ได้สนุก

เพลิดเพลินกับการทำงาน ได้ทำงานอย่างมีความสุข เกิดความภูมิใจในผลงานที่ปรากฎ และสามารถนำความรู้นั้นไปใช้

ได้อย่างเหมาะสม

ขั้นตอนที่ 5 เขียนรายงานอย่างมั่นใจ : การดำเนินการตามขั้นตอนนี้ เป็นการสรุปการรายงานผลจากการปฏิบัติ

งานที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้อื่นได้ทราบแนวคิด วิธีดำเนินงาน ผลที่ได้รับ และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโครงงาน

การเขียนรายงานควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย กระชับ ชัดเจน และครอบคลุมประเด็นสำคัญ ๆ อาจกำหนดเป็นหัวข้อต่าง ๆ

หรือรายบท ได้ดังนี้ บทนำ เอกสารที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการศึกษา ผลการศึกษา สรุป และข้อเสนอแนะ รวมทั้ง

ภาคผนวกที่ต้องการนำเสนอในรายละเอียดด้วย

ขั้นตอนที่ 6 นำเสนองานได้อย่างเหมาะสม : นับเป็นขั้ตอนสุดท้ายของการจัดทำโครงงาน เป็นการนำผลการดำเนินงาน

ทั้งหมดมาเสนอให้ผู้อื่นได้ทราบ โดยเน้นความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ ความรับผิดชอบ อาจมีลักษณะเป็นเอกสาร รายงาน

ชิ้นงาน แบบจำลอง ฯลฯ ซึ่งสามารถนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น การจัดนิทรรศการ การแสดง การสาธิต

การบรรยาย การจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ การจัดทำสื่อมัลติมีเดีย ฯลฯ

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

นกกรงหักจุด

การดูเพศนกหัวจุกว่าตัวใดเป็นเพศผู้หรือเพศเมียนั้นหลายท่านได้ตอบมาพอเป็นสังเขปแล้วครับ ซึ่งความชำนาญและประการณ์ในการสังเกตจะไม่แตกต่างกันมากนัก ผมขออนุญาตเสริมตรงนี้บางข้อครับตามประสาคนเคยเดินป่าหานกเหมือนกันคนหนึ่ง


1. นกตัวผู้โครงสร้างโดยส่วนใหญ่จะใหญ่กว่าตัวเมีย ลักษณะนี้ประมาณ 70 เปอร์เซนต์ครับ เพราะเคยมีนกตัวเมียใหญ่ๆให้เห็นเหมือนกัน

2.ลักษณะจุกจะโค้งไปข้างหน้า ส่วนตัวเมียตั้งตรงหรือลู่ไปด้านหลัง แต่ถ้านกตกใจจะลู่ไปข้างหลังเหมือนกันหมดครับ ลักษณะนี้บอกได้ประมาณ 60 เปอร์เซนต์ครับ ( ไม่เหมาะกับการดูนกที่ออกมาจากป่าใหม่ๆ )

3.สีแดงที่ก้นของนกหัวจุกถ้าออกจากป่ามาใหม่ๆบอกได้เลยครับแดงเหมือนกันหมด ใช้วิธีนี้แยกไม่ค่อยได้ผลครับ ประมาณ 50 เปอร์เซนต์ ที่นกเปลี่ยนสีที่ก้นนั้นเนื่องมาจากได้รับสารอาหารไม่เหมือนในธรรมชาติครับ ผมเคยทดลองให้กินมะละกอสุกๆเป็นเวลา 1 เดือนกินติดต่อกันทุกวัน สีที่ก้นก็กลับมาแดงใกล้เคียงกับสีตามธรรมชาติตอนที่พึ่งออกมาจากป่าครับ                                                                

4. สีของนกตัวผู้โค่นลิ้นจะมีดำ ส่วนนกตัวเมียจะเหลืองอ่อน , ขาวเหลือง , มีสีดำเล็กน้อย ประมาณ 90 เปอร์เซนต์ครับและจะแยกได้ดีตอนที่เป็นลูกนกเล็กๆครับ ส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้คัดตอนที่นกยังเล็กๆ ประเภทลูกป้อนครับ ลองแหย่ให้นกอ้าปากและดูสีที่โค่นลิ้นเพื่อคัดลูกนกกัน แต่มีนกตัวเมียลิ้นดำหรือดำเกือบหมดก็มีครับ แบบนี้ผมมีอยู่ 2 ตัว เป็นเพศเมียพันธุ์นกที่บ้านครับ

5.ในฤดูผสมพันธุ์กันนกตัวผู้จะมีมุมปีกทั้ง 2 ข้างเป็นสีแดงส้มเข้ม นั้นแสดงว่านกเป็นสัดพร้อมจะผสมพันธุ์ครับ ส่วนตัวเมียจะเป็นสีขาว เหมาะสำหรับคัดนกในฤดูผสมพันธุ์ประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ได้ผลประมาณ 80 เปอร์เซนต์ ( นกอายุ 2 ปี ขึ้นไปจะชัดเจนครับ )

6.การเป่าหน้าอกนกดู ถ้าเป็นนกตัวผู้จะมีขน 2 ชั้นเวลาเป่าที่หน้าอกจะเห็นขนอ่อนซ้อนอีกหนึ่งชั้น ส่วนตัวเมียจะมีขนชั้นเดียวเป่าแล้วเห็นเนื้อที่หน้าอกเลย ซึ่งเป็นลักษณะของเพศเมียครับ วิธีนี้ 85 เปอร์เซนต์ครับ ( เหมาะสำหรับนกอายุ 2 ปีขึ้นไปจะเห็นชัดครับเพราะเป็นนกที่พร้อมผสมพันธุ์แล้วและผ่านการผลัดขนมาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้งครับ )